ปัจจุบันเราต้องการที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างให้รวดเร็วขึ้น และมีขยะน้อยลง เนื่องจากความต้องการสร้างสิ่งก่อสร้างที่มากขึ้นและรวดเร็ว
แต่ยังมีอุปสรรคในการลดขยะที่การเกิดจากการก่อสร้าง, ลดการใช้พลังงาน รวมถึงการใช้ทรัพยากรให้น้อยลงด้วย ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตทักษะแรงงานสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างที่หดตัวลง
และนี่เป็น 3 เทคโนโลยีออกแบบที่จะช่วยแก้ปัญหา
1. Generative Design

การใช้ Generative Design เป็นการใช้ระบบอัตโนมัติ และ Artificial Intelligence (AI) เพื่อช่วยพิสูจน์ว่าการออกแบบได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ทำให้ผู้ออกแบบสามารถลดงานที่ทำซ้ำๆ แล้วไปโฟกัสที่การออกแบบได้มากขึ้น ทำให้มีเวลาทำงานร่วมกันมากขึ้น
และแนวทางนี้เพิ่มมากขึ้น 37% ในสหรัฐอเมริกา
2. Design For Manufacturing and Assembly (DfMA)
กระบวนการ DfMA เป็นขั้นตอนการอุตสาหกรรมผลิตที่นำมาใช้ในองค์ประกอบของการก่อสร้าง โดยการนำเอาส่วนประกอบของอาคารมาทำเป็นชิ้นส่วนประกอบ

ข้อดีความเราจะสามารถจัดการชิ้นส่วนต่างๆ ล่วงหน้าได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นโครงการ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านความเร็ว, คุณภาพ และความยั่งยืน ด้วยการใช้กระบวนการ DfMA จะทำให้ประหยัดเวลาและการปล่อยมลพิษในขั้นตอนการก่อสร้างถึง 50%
3. Digital Project Delivery
Digital Project Delivery ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันของทีมออกแบบและทีมก่อสร้างหน้างาน การทำงานร่วมกันบน Cloud ทำให้ทุกฝ่ายสามารถประสานงานทั้งโมเดลและข้อมูลร่วมกันได้ผ่าน Common Data Environment (CDE) ทำให้สามารถร่วมกันวางแผน, ออกแบบ, ก่อสร้าง

โดยเทคโนโลยี Cloud Base จะช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายในช่วงก่อสร้างลง 30%