Apple มีแนวคิดในการสร้าง Apple Store อย่างไร

เมื่อเดินเข้าไปใน Apple Store เราจะรับรู้ได้ถึงความแตกต่างจากการเดินเข้าไปในร้านค้าอื่นๆ

เราสามารถรับรู้ได้ ถึงการออกแบบที่เรียบง่าย, สะอาดตา เหมือนกันทุกสาขาทั่วโลก และรู้สึกทึ่งไปกับรูปแบบของสถานที่ หรือโครงสร้างอันที่น่าตื่นตาตื่นจ เมื่อเราเข้ามาในร้าน ความสับสนวุ่นวายในการพยายามหาสินค้าแบบร้านขายสินค้าทั่วไป จะถูกแทนที่ด้วยความผ่อนคลาย

ตั้งแต่ปี 2001 Apple ได้เปลี่ยนโฉมหน้าร้านของตัวเองให้แตกต่างจากผู้ผลิตสินค้าทั่วไป ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงของ Apple ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับแบรนด์อื่นๆ ในการทำงานร่วมกันของ Apple กับสถาปนิกชื่อดังระดับโลก เพื่อสร้าง Landmark แห่งใหม่ในเมือง

ความลับของ Apple คืออะไร?
Apple สร้างรูปแบบร้านค้าของตัวเองได้อย่างไร?
พวกเขาจะประสบความสำเร็จกันได้อย่างไร ในเมื่อร้านค้าทั่วโลกกำลังดิ่งลงสู่จุดตกต่ำ? และการปรากฏตัวของ Apple Store ตามสถานที่สำคัญในเมือง จะรักษาความเป็นเมืองที่น่าอยู่ ได้หรือไม่?

Apple Store ทุกแห่งถูกออกแบบด้วยส่วนผสมเดียวกัน

ทุกร้านเรียบง่าย เน้นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้, หิน และถูกออกแบบให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายเพราะสะอาดและเปิดโล่ง

Apple ขยาย ภาษาในการออกแบบ (Design Language) ของผลิตภัณฑ์ตัวเองไปสู่สภาพแวดล้อมที่ถูกออกแบบไว้ เช่น โลโก้ Apple จะเรืองแสงที่หน้าร้านเสมือนด้านหลังของเครื่อง MacBook, iMac เพื่อให้กลายเป็นฉากหลังของร้าน

Apple Store แสดงถึงความเรียบง่ายที่หรูหราสำหรับลูกค้า

Apple Store ไม่เคยถูกออกแบบมาเพื่อขายอะไรโดยตรง แต่เพื่อให้ความรู้ โดยการจัดแสดงสินค้าเหมือนการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ มากกว่าการจัดเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้า

พวกเขามุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer’s Experience) มากกว่าวัตถุประสงค์ในการขายสินค้าของตนเอง

Apple จัดแสดงผลิตภัณฑ์ของตนให้เหมือนกับการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์, รูปจาก Apple

วิธีนี้ทำให้ Apple Store แตกต่างจากร้านค้าของแบรนด์อื่นๆ เมื่อเปิดสาขาแรกในปี 2001

แม้จะมีข้อสงสัยในการออกแบบมากมายในช่วงแรกแต่ Apple Store ก็สร้างยอดขายต่อปีถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเวลาเพียง 3 ปี

แบรนด์อื่นๆ เริ่มลอกเลียนสไตล์ของ Apple

เริ่มมี Tesla Store และ Samsung Store แม้แต่ McDonalds ก็เริ่มยืมแนวคิดนี้ไปออกแบบร้านของตนด้วย

Apple Store ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก Apple ได้เชิญ Angela Ahrendts จาก Burberry มาเป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายร้านค้าปลีก ในปี 2014 และเริ่มทำงานออกแบบร่วมกับ Foster + Partners บริษัทสถาปนิกชื่อดัง

จากนั้นจึงเริ่มทดสอบและใช้หลักการ “Town Square” โดยเชื่อมโยงสถานที่สำคัญและสถานที่ที่มีชื่อเสียงเข้ากับแบรนด์

ร้านค้าของ Apple เริ่มปรากฏในใจกลางเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น Champs-Elysees ในปารีส, Covent Garden ในลอนดอน, Piazza Liberty ในมิลาน และแม้แต่สถานี Grand Central ของนครนิวยอร์ก

Apple Store มักจะตั้งอยู่ในสถานที่สำคัญๆ ในเมืองใหญ่ๆ เสมอ

ด้วยเงินสดที่มากมาย Apple ได้แทรกตัวเองเข้าไปในแกนกลางของพื้นที่สาธารณะหลายแห่งกลายเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับกิจกรรมต่างๆ

ร้านค้าในรูปแบบ “Town Square” แม้จะออกแบบด้วยแนวคิดเช่นเดียวกัน แต่ก็ใช้ปรัชญาการออกแบบแตกต่างออกไปให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ตั้ง :

  • “Plaza” สำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ สำหรับจัดแสดงดนตรีและกิจกรรมต่างๆ
  • “Forum” เป็นพื้นที่สำหรับแสดงความคิดสร้างสรรค์
  • “Avenues” เป็นส่วนหนึ่งของทางเดิน, ถนนให้ลูกค้าสัญจรไปมา
  • “Genius Grove” เป็นการจัดพื้นที่สีเขียวให้กับส่วน Smart Bar ของร้าน Apple

ตัวอย่างที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของ Apple เป็นการแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ชัดเจนของกลยุทธ์นี้

Apple Store Fifth Avenue ถูกปรับปรุงเสร็จในปี 2019 ซึ่งเป็นลูกบาศก์แก้วบน Fifth Avenue ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของ New York ในตอนนี้ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสสาธารณะที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยมีไฟส่องสว่างไปยังร้านค้าด้านล่าง

Forum, Avenues, Genius Grove เป็นองค์ประกอบของ Apple Store Fifth Avenue ได้ทำหน้าที่ตามที่ถูกออกแบบมา ให้เป็นศูนย์พักผ่อนหย่อนใจ ใจกลางแมนฮัตตัน

ในปี 2020 Apple ได้ยกระดับสิ่งต่างๆ ไปสู่อีกขั้น ด้วยร้านค้าบนเกาะทรงกลมใน Marina Bay ที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์

Marina Bay Apple Store ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญทางสถาปัตยกรรมไปแล้ว, รูปจาก Apple

กระจกและโดมเหล็กที่ล้อมรอบด้วยน้ำและมีอุโมงค์ 45 เมตร ที่รองรับตัวอาคาร เป็นที่ตั้งของแนวคิดหลักทั้งหมดของ Apple เพื่อให้มองเห็นทิวทัศน์ของเส้นขอบฟ้าของสิงคโปร์แบบ 360 องศาในขณะที่ครีบบังแดดช่วยป้องกันพื้นที่จากแสงแดด

แม้จะมีความสง่างามด้วยรูปแบบและความโดดเด่นของร้านค้า แต่แนวคิดหลักทั้งหมดของ Apple Store ก็ยังคงชัดเจน

บางคนกลัวการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ และตั้งคำถามว่า บริษัทเอกชนที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ควรครอบครองศูนย์กลางของชุมชนในบางชุมชนหรือไม่?

แม้จะได้รับการดูแลพื้นที่โดยรอบของร้านค้าโดย Apple และในขณะที่บางคนมีความเห็นว่า การมีส่วนร่วมของ Apple ได้ช่วยรักษาอาคารมรดกบางแห่งไว้ได้จริง แต่การขยายร้านไปยังสถานที่บางแห่งของ Apple ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์

มีการประท้วงเล็กน้อยเกิดขึ้น เมื่อ Apple ประกาศเปิด Apple Store ภายใน Grand Central Station, ใน Manhattan และ อีกครั้งเมื่อมีการประกาศสาขาใหม่ที่ Carnegie Library, ใน Washington D.C.

Apple ต้องถอนแผนสำหรับร้านค้าใน Melbourne, รูปจาก Apple

แม้ว่า Grand Central Station จะมีพื้นที่สำหรับร้านค้าปลีก แต่ Carnegie Library ก็ยังมีไว้สำหรับประชาชนทั่วไปให้เข้ามาใช้งานเป็นห้องสมุดอยู่ดี

Apple กล่าวว่าการปรับปรุงครั้งนี้ได้ “คืนห้องสมุดให้กับชุมชน” ในฐานะ “ศูนย์การเรียนรู้การค้นพบและความคิดสร้างสรรค์”

แผนการสร้าง Apple Store สาขาสำคัญใน Federation Square ของ Melbourne ถูกยกเลิกไปในที่สุด เนื่องจากการต่อต้านของสาธารณชน

แม้จะมีการถกเถียงกันอย่างแพร่หลาย เกิดขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานพื้นที่ในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียง แต่วิธีที่ Apple สร้างร้านค้าได้กำหนดวิธีคิดเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมค้าปลีกใหม่

ในขณะที่ร้านค้าปลีกจำนวนนับไม่ถ้วนเลิกกิจการหรือย้ายไปออนไลน์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
Apple Store กลับได้รับความนิยมมากขึ้น พวกเขาประสบความสำเร็จด้วยการทำความเข้าใจถึงศักยภาพของการออกแบบที่ดีและตระหนักว่าเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างสภาพแวดล้อมได้เพียงใด

ที่มา : https://www.theb1m.com/video/how-apple-builds-its-stores

Narrated by Fred Mills. Additional footage and images courtesy of Apple, Tom Horden, McDonalds and Foster + Partners.

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

Create a website or blog at WordPress.com

%d bloggers like this: